ตามรอยสักการะท้าวเวสสุวรรณ
ใน พ.ศ. นี้ไม้มีใครที่จะไม่รู้จักท้าวเวสสุวรรณ
ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้ง4
โดยความเชื่อแล้ว ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเจ้าแห่งอสูรยักษ์ รวมถึงภูตผีปีศาจ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เทพผู้ปกป้องพระพุทธศาสนา และเป็นเทพผู้คุ้มครองโลกมนุษย์ ทรงประทับอยู่ทางทิศเหนือ ตามตำนานทางพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ มีขุมทรัพย์มากมายมหาศาล ท่านเป็นเทพรูปงาม แต่สามารถแปลงกายเป็นยักที่น่าเกรงขาม เพื่อกำราบ อสูร ภูตผี วิญญาณ และมารทั้งหลาย ดังนั้น เราจะเราทุกคนไปไหว้ ท้าวเวสสุวรรณ ที่วัดดัง ต่างๆ 6 แห่ง ดังนี้
1.วัดจุฬามณี
วัดจุฬามณี เป็นที่แรกๆ เพราะตำนาน การสร้าง ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณีนั้นแตกต่างจากที่อื่น ที่จริงแล้ว “ท้าวเวสสุวรรณ” มีอยู่หลายที่ด้วยกัน แต่ด้วยตำนาน ความเชื่อโบราณ การไหว้ขอพร เสริมบุญบารมี เมื่อเอ่ยถึงการ บูชา “ท้าวเวสสุวรรณ” หลายคนจะนึกถึงที่ วัดจุฬามณี เป็นที่แรกๆ เพราะตำนาน การสร้าง ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณีนั้นแตกต่างจากที่อื่น เนื่องด้วยพระอาจารย์อิฏฐ์ เจ้าอาวาสปัจจุบันของวัดฯ ได้ฝันเห็น “ท้าวเวสสุวรรณ” ในนิมิตนั้นองค์ท่านได้พาพระอาจารย์อิฏฐ์ไปเที่ยวชมยมโลกจนทั่ว พระอาจารย์อิฏฐ์จึงตั้งอธิษฐานเป็นสัจจะวาจาไว้ว่า ถ้ากลับไปในโลกมนุษย์ครั้งนี้จะทำการตั้งรูปปั้น “ท้าวเวสสุวรรณ” ไว้กลางวัดเสมือนเป็นการขอบคุณและการให้ความเคารพแก่ท่าน ในนิมิตพระอาจารย์อิฏฐ์ก็ ได้บอกความประสงค์นี้แก่ท่าน “ท้าวเวสสุวรรณ” ไป ท่านจึงบอกกลับมาว่า หากจะปั้นฉันจะต้องไปตามช่างปั้นท่านหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรี ต้องให้ช่างผู้นี้เป็นผู้ปั้นเท่านั้น และนั่นจึงกลายเป็นตำนานที่มา ที่ทำให้ “ท้าวเวสสุวรรณ” แห่ง “วัดจุฬามณี”ได้รับแรงศรัทธาจากผู้คนล้นหลาม กลิ่นธูปควันเทียนและเสียงสวด คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ จากคนทั่วทุกสารทิศจึงมาอบอวลอยู่ที่วัดจุฬามณีแห่งนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน
2.วัดจุกเฌอ
เสียงเลื่องลืออย่างหนาหู ทั้งพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง วัตถุมงคล รวมไปถึงองค์ท้าวเวสสุวรรณที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้วัดจุกเฌอ เป็นวัดที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้ ขอพร ซึ่งจุดเด่นของวัด ท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ ทางด้านซ้าย มีนามว่า ท่านท้าวรุ่งเรือง ลักษณะเด่น คือ มีกายสีม่วง เป็นสีประจำวัดเกิดของหลวงพ่อช้าง และ ทางด้านขวา มีนามว่า ท่านท้าวร่ำรวย จะมีลักษณะเด่น คือ กายสีแดง ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ท้าวเวสสุวรรณ เป็นผู้ดูแลพระพุทธเจ้ามาทั้ง 28 พระองค์ และ เชื่อกันว่าเป็นเทพที่มีความใกล้ชิดกับพระศาสนา องค์พระสัมมาพระพุทธเจ้า และยังมีตัวตนจริง ๆด้วย
3.วัดสายไหม
สักการะ “ท้าวเวสสุวรรณ” เทพแห่งความร่ำรวย ณ วัดสายไหม อำเภอลำลูกกา บริเวณข้างอุโบสถ ที่มีทั้งหมด 4 องค์ ได้แก่ องค์ที่ 1 สีแดง เด่นในเรื่องอำนาจบารมี องค์ที่ 2 สีเขียว เด่นในเรื่องการเก็บเงิน องค์ที่ 3 สีทอง เด่นในเรื่องสุขภาพ และองค์ที่ 4 สีเงิน เด่นในเรื่องโชคลาภ ซึ่งพระครูโสภณภัทรเวทย์ (หลวงพ่ออ๊อด ปธานิโก) พระเกจิชื่อดังของปทุมธานี ได้ประกอบพิธีบวงสรวงและเบิกเนตร เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565
4.วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร
วัดสำคัญของกรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8 ภายในวัดมีพระพุทธรูปสำคัญสามองค์ คือ พระศรีศากยมุนี, พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ และพระพุทธเสรฏฐมุนี อีกทั้งยังมี “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์เก่าแก่ หล่อด้วยสำริดเคลือบสีเขียว ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังพระอุโบสถให้ได้สักการบูชากันด้วย
5.วัดสุทธาราม
วัดดังย่านฝั่งธนบุรี ตั้งอยู่ริมคลองบางไส้ไก่ ที่นี่เป็นสถานที่ประดิษฐาน “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์ขนาดใหญ่ ผู้คนมักไปกราบไหว้ขอความสำเร็จเกี่ยวกับกิจการงาน ลาภ และยศ พร้อมขจัดสิ่งอัปมงคลสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง โดยเปิดให้เข้าสักการะทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 และวันเสาร์-อาทิตย์จะเปิดพิพิธภัณฑ์ให้ชมด้วย
6.วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (บางชัน)
วัดที่ตั้งอยู่ริมคลองบางชัน ในซอยพระยาสุเรนทร์ 1 เป็นสถานที่ประดิษฐานรูปหล่อ “ท้าวเวสสุวรรณ” ขนาดใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณหน้าศาลาอนุสรณ์ ๙๕ โดยประชาชนมักไปขอพรเรื่องโชคลาภ ทำมาค้าขายดี ป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ที่นี่เปิดให้สักการะ 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้กราบไหว้ขอพร