วันคเณศจตุรถี คือวันคล้ายวันประสูติของ พระพิฆเนศ หากวันนี้ได้ทำการขอพรใดๆกับองค์พระพิฆเนศ จะสำเร็จสมหวังดังใจปรารถนา วิธีเสริมเฮงและขอพรใน วันคเณศจตุรถี นี้
วันคเณศจตุรถี เป็นวันคล้ายวันเกิดขององค์พระพิฆเนศ ถือเป็นวันสำคัญที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่นับถือองค์พระพิฆเนศ และในหลายประเทศยังมีเทศกาลเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ โดยวันคเณศจตุรถี นี้จะตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 9 และวันแรม 4 ค่ำ เดือน 10 โดยในปี พ.ศ. 2565 นี้จะตรงกับวันที่ 31 สิงหาคม 2565
วิธีการไหว้ขอพรและข้อควรทำ ในวันคเณศจตุรถี
1. จัดหารูปแทนพระพิฆเนศหรือรูปปั้นบูชาองค์พระพิฆเนศมาตั้งบูชา อีกทั้งจัดเก็บทำความสะอาดห้องบูชาพระให้สะอาด และมีระเบียบ เพื่อเป็นการต้อนรับองค์พระพิฆเนศ
2. โดยการจัดโต๊ะบูชาเล็กๆ แยกจากหิ้งพระ ปูด้วยผ้าสีแดงหรือสีส้มแล้วอัญเชิญรูปเสมือนหรือรูปเหมือน หรือเทวรูปพระพิฆเนศมาประทับไว้ โดยเชื่อกันว่าพระองค์จะเสด็จมาประทับอยู่นานถึง 10 วัน
3. นำเทวรูปของพระพิฆเนศ มาสรงน้ำ หรือหากเป็นรูปเหมือนก็นำมาเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้า หากเป็นรูปเหมือนควรใส่กรอบเพื่อป้องกันการเสียหายและชำรุดของภาพ หากเป็นกรอบรูปควรเป็นกรอบกั้นภาพ เช่น กรอบอะคลิลิค หรือกรอบคริสตัล หรือหากเลี่ยงไม่ได้ก็ควรทำความสะอาดด้วยความระมัดระวัง
4. ทำความสะอาดร่างกายตัวเองด้วยการอาบน้ำชำระร่างกาย
5. จัดเตรียมของไหว้องค์พระพิฆเนศให้พร้อม ประกอบด้วย ธูป กำยาน กระถางธูปหรือโถกำยาน - เทียน 2 เล่ม - ขนมไทยและขนมอินเดีย : ขนมโมทกะ, ขนมต้มแดง, ขนมต้มขาว และขนมหวานลาดูป ผลไม้อ้อย เครื่องดื่ม น้ำอ้อยและนมวัว ของไหว้อื่น ๆ ข้าวสาร, เกลือ, พืช, ผัก, งา, สมุนไพร, ธัญพืช และเครื่องเทศทุกชนิด รวมกันอย่างน้อยให้ได้ 5 ชนิดขึ้นไป จัดใส่จาน
**สำหรับ ของไหว้พระพิฆเนศ ห้ามใช้เนื้อสัตว์ทุกชนิด สามารถใช้ขนมที่มีส่วนผสมของไข่ได้บ้าง แต่ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
6. เตรียมดอกไม้สดสวยๆ เช่น ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกบัว
7. ขั้นตอนการบูชาพระพิฆเนศ สวดภาวนาด้วยบท “โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา” 108 จบ
ถวายเครื่องบูชาสักการะ โดยนำของทั้งหมดวางไว้หน้า เทวรูปพระพิฆเณศ หรือรูปสัญลักษณ์แทนองค์ วางดอกไม้ไหว้หน้าเทวรูป หรือ รูปสัญลักษณ์แทนองค์ หรือถ้าร้อยเป็นพวงให้นำไปคล้องที่พระกรของเทวรูป จุดเทียน ธูปหอม กำยาน ฯลฯ ต่อหน้าเทวรูป ทำจิตใจให้สงบแล้ว ตั้งนะโม 3 จบ และเริ่มกล่าวบทสวดพระพิฆเนศ
พอท่องบทสวดมนต์เสร็จแล้ว ให้อธิษฐานขอพรเป็นภาษาไทย
กล่าวคำว่า โอม ศานติ (3 ครั้ง)
*บทสวดพระพิฆเนศสามารถใช้บทสวดใดก็ได้เพียงบทเดียว หรือจะสวดหลาย ๆ บทต่อเนื่องกันก็ยิ่งดี แต่ที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่คือ “โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา”
คำภาวนาก่อนเริ่มบทสวดพระพิฆเนศ
*สำหรับชาวพุทธให้ตั้งนะโม 3 จบก่อน แล้วจึงค่อยเริ่มบทสวดพระพิฆเนศ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
คาถาบูชาพระพิฆเนศแบบสั้น
โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา
(3, 5, 7, 9 จบ *หรือตามกำลังวัน
คาถาบูชาพระพิฆเนศของไทย
“โอม พระพิฆเณศวร
สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
ทุติยัมปิ พระพิฆเณศวร
สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
ตะติยัมปิ พระพิฆเณศวร
สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ”
คาถาบูชาพระพิฆเนศเพื่อความสำเร็จ
“โอม ศรีคะเนศายะนะมะ
ชะยะคะเณศะ ชะยะคะเณศะ ชายะคะเณศะ
เทวา มาตา ชากี ปะระ วะตี ปิตามะหา เทวา ละฑุวัน
กา โกคะ ละเค สันตะ กะเร เสวา เอก ทันตะ
ทะยาวันดะ จาระ ภุชา ธารี มาเถ สินทูระ เสเห
มูเส กี อะสะวารี อันธะนะ โก อางขะ เทตะ
โก กายา พามณะนะ โก กุตรร เทตะ
โกทินะ นิระทะนะ มายาฯ”
คาถาบูชาพระพิฆเนศ 8 บท
“โอม พูตายะ นะมะหะ
โอม ภัคตะวิฆนะ วินาศิเน นะมะหะ
โอม วิฆะณะราชายะ นะมะฮหะ
โอม ศุธิปริยายะ นะมะหะ
โอม ศริษายะ นะมะหะ
โอม สธิรายะ นะมะหะ
โอม สมาหิตายะ นะมะหะ
โอม สมุยายะ นะมะหะ”
**
ข้าแต่องค์พระพิฆเนศ ข้าพเจ้าได้ประกอบพิธีบูชาเพื่อสรรเสริญพระองค์เนื่องในวันคล้ายวัน ประสูติของพระองค์ ในเทศกาลวันคเณศจตุรถี นี้ ด้วยจิตใจที่ถึงพร้อมด้วยความศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม ข้าพเจ้าขอน้อมบูชาพระองค์ด้วยความรัก ความศรัทธา พระองค์ผู้มีพระพักตร์อันงดงาม มีพระวรกายที่แข็งแกร่ง ทรงศาสตราวุธที่สามารถปราบอสูรร้ายให้ศิโรราบ ความสว่างอันเจิดจ้าดั่งแสงสุริยะนับล้านดวงได้แผ่กระจายออกมาจาก พระองค์ “โอม…พระพิฆเนศ” ผู้ทำลายความทุกข์โศก ขจัดอุปสรรคและความลำบากยากจนให้แก่ข้าพเจ้า (ชื่อ..นาย/นางสาว/เด็กชาย/เด็กหญิง... นามสกุล) นานาอุปสรรคที่ขัดขวาง ขอจงถูกทำลายด้วยน้ำมือของพระองค์ และกาลนี้ขอพระองค์โปรดประทานความสำเร็จทุกประการแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด “โอม ศานติ…ศานติ…ศานติ”
ตามตำนานในวันพิธีคเณศจตุรถีนั้น ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 ประชาชนทั้งหลายต่างพากันมาทำสักการบูชารูปเคารพของพระพิฆเนศ เครื่องบูชาจะประกอบไปด้วยดอกไม้สด สีโทนจัด เช่น สีแดง สีเหลือง สีแสด ขนมต้ม มะพร้าวอ่อน กล้วย อ้อย นมเปรี้ยว และเมล็ดพันธุ์พืช โดยจะท่อง พระนาม 108 ของพระองค์ หลังจากการบูชาแล้วก็จะเชิญพราหมณ์ ผู้ประกอบพิธีมาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ เสมือนพิธีทางพุทธ (เลี้ยงพระ) โดยมีข้อห้ามในวัน พิธีคเณศจตุรถี คือ ห้ามมองพระจันทร์อย่างเด็ดขาด และถือกันว่าถ้าผู้ใดได้มองพระจันทร์ ทั้งตั้งใจและพลั้งเผลอก็ดี เหล่าชาวบ้านก็จะพากันแช่งด่าผู้นั้นทันที ก็เป็นความหวังดีของเหล่าชาวบ้านหรือผู้มาร่วมงาน ไม่ได้ด่าด้วยความโกรธหรือไม่พอใจแต่อย่างใด แต่ที่ต้องด่าเพราะเชื่อกันว่าการด่าการแช่งนั้น จะทำให้คนที่เผลอไปมองพระจันทร์นั้นพ้นจากคำสาปได้
ซึ่งมีตำนานเรื่องเล่าบอกกล่าวไว้ 2 ตำนาน
ตำนานหนึ่งว่า การที่พระคเณศพลัดตกจากหลังหนูจนเกิดท้องแตก ขณะเสวยขนมต้มเกิดมีงูเห่าเลื้อยผ่านทำให้ตกใจ ท้องแตกทำให้ขนมต้มทะลักออกมาจากพระอุทร(ท้อง)ของพระคเณศ ก็รีบเก็บขนมต้มยัดกลับไปในพระอุทร(ท้อง) และจับงูเห่าตัวนั้นมารัดพุงขณะนั้น พระจันทร์ก็บังเอิญมาเห็นเข้า ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ ได้พลันหัวเราะออกมาดังสนั่นพระคเณศโกรธมาก จึงเอางาขว้างใส่พระจันทร์ เกิดโลกมนุษย์มืดดับลงในทันที เหมือนราหูอมจันทร์ พระอินทร์และทวยเทพเทวดาทราบเรื่อง ก็ต้องพากันไปอ้อนวอนร้องขอ พระคเณศ จึงยอมถอดเอางาออก แต่พระจันทร์เองก็ต้องได้รับโทษจะต้องเว้า แหว่ง ไม่เต็มดวงในทุกๆคืน จนกว่าจะถึงวันขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ จึงจะกลับมาเต็มดวง
ส่วนตำนานที่สองเล่าว่า พระคเณศสาปคนที่เห็นพระจันทร์ในวันคเณศจตุรถี หากใครมองดูพระจันทร์ในวันนี้ ผู้นั้นก็จะต้องกลายเป็นคนจัณฑาล ในสังคมอินเดียชนชั้นจัณฑาลจะเป็นที่รังเกียจของคนวรรณะอื่นๆ ดังนั้นคำสาปให้กลายเป็นจัณฑาลจึงน่ากลัวมาก เมือใครได้เห็นดังนั้นจึงต้องพากันด่าคนที่เห็นดวงจันทร์เพื่อคลายคำสาบนั่นเอง
และนี่คือหนึ่งในเรื่องเล่าตำนาน ของวันคเณศจตุรถี ที่จะมีถึงในเร็ววันนี้ พุธที่ 31 สิงหาคม 2565
สำหรับการบูชาองค์พระพิฆเนศ ในวันนี้แล้วมักขอพรใดก็สำเร็จ แต่สิ่งสำคัญต้องไม่ลืมว่าการประพฤติตนเป็นคนดีรักษาศีล “ศีลคือความปกติ” ดีแล้วนั้นย่อมทำกิจการ การงานมีผลดียิ่งขึ้น