แพะมหาเสนห์ รุ่นหนังกลองแตก เลี่ยมตามสีวันเกิด หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จ.ระยอง แพะอันดับ 1 ของไทย

แพะมหาเสนห์ รุ่นหนังกลองแตก หลวงพ่ออ่ำ เกสโร วัดหนองกระบอก จ.ระยอง

เนื้อรุ่นหนังกลองแตกรูปแพะ ปี 63 (แพะอันดับ 1 ของไทย) *ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย

เลี่ยมสีม่วง      ประจำวันเสาร์ 
เลี่ยมสีเหลือง   ประจำวันจันทร์
เลี่ยมสีแดง      ประจำวันอาทิตย์
เลี่ยมสีชมพู      ประจำวันอังคาร
เลี่ยมสีฟ้า        ประจำวันศุกร์  
เลี่ยมสีม่วง      ประจำวันเสาร์
เลี่ยมสีส้ม(แสด) ประจำวันพฤหัสบดี  

ขนาด สูง 5 ซม. x กว้าง 4 ซม.

“หลวงพ่ออ่ำ เกสโร” วัดหนองกะบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งแห่งภาคตะวันออก มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมา คือ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเฌอ จ.ชลบุรี, หลวงพ่อลัด วัดหนองกะบอก จ.ระยอง ฯลฯ

  สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ สร้างเครื่องรางของขลังรูปแพะจนมีชื่อเสียง ซึ่งได้สืบทอดวิชาต่อจากหลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา จนเป็นที่ต้องการของบรรดานักนิยมสะสมเครื่องรางของขลัง

  แพะหลวงพ่ออ่ำ สร้างจากเขาควายฟ้าผ่าตาย ซึ่งมีความเชื่อกันว่าได้รับพลังจากเทพ แล้วนำมาแกะเป็นแพะ บรรจุวิทยาคม โดยวางไว้บนถาด บางครั้งก็แช่น้ำมันหอม น้ำมันว่านสมุนไพร น้ำมันจันทน์ ครั้นจะมอบให้ จะทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง จากตำราสมุดข่อยที่คณาจารย์โบราณได้จารึกว่า การสร้างแพะโดยใช้เขาควายและเขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย เนื่องจากมีความเชื่อกันว่าเขานั้นจะได้รับพลังจากเทพ คือ สวรรค์ทุกชั้น ทุกวิมาน

  นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าในตัวแพะที่โดนฟ้าผ่าตายนั้นได้พลีจากสรวงสวรรค์อีกด้วย พระเกจิอาจารย์หลายสำนักจึงได้นำมาเป็นวัสดุในการแกะเป็นรูปลักษณ์ของแพะ ว่ากันว่าผู้ที่มีแพะหลวงพ่ออ่ำ ไว้ในความครอบครอง จะเป็นผู้ที่มั่งคั่งสมบูรณ์เมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง และอายุยืน

  เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดทับมา ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง มีหลวงปู่ขาว วัดทับมา เป็นพระอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย เป็นพระคู่สวด มีนามฉายาว่า “เกสโร” จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองกะบอก ก่อนเดินทางออกไปเรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์ต่างๆ

  ไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน ที่วัดบางเหี้ย ขอเรียนวิชาสร้างเสือแกะจากเขี้ยวเสือ แต่หลวงพ่อปานเรียกไปพบเป็นการส่วนตัวบอกว่าหลวงปู่อ่ำไร้วาสนาทางสร้างเสือมหาอำนาจ แต่ท่านจะสอนวิชาสร้างแพะ แกะจากเขาควายเผือกฟ้าผ่าตาย อันเป็นสุดยอดเครื่องรางของขลังให้แทน ภายหลัง กลับมาที่วัดหนองกะบอก อยู่จำพรรษาจนถึงสมัยหลวงพ่อยอด เจ้าอาวาสรูปที่ 5 เริ่มงานสร้างอุโบสถวัดหนองกะบอก แต่แล้วหลวงพ่อยอดกลับมาอาพาธ จนไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสต่อไปได้ จึงลาสิกขาไปรักษาตัว ตำแหน่งเจ้าอาวาสจึงว่างลง คณะสงฆ์จึงประชุมชาวบ้านหนองกะบอก มีมติให้หลวงปู่อ่ำดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทน

ตำราการสร้างแพะอาคม  เชื่อว่ามีการสืบทอดกันมายาวนาน คาดว่าอาจสืบทอดมาแต่สมัยอยุธยา  เท่าที่พอมีหลักฐานคำบอกเล่าที่ทราบ  วิชานี้องค์ปฐมอาจารย์ผู้ถ่ายทอด คือ ขรัวแตง วัดอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ท่านขรัวแตงนี้เป็นองค์อาจารย์ ผู้ถ่ายทอดวิชาปลุกเสกเขี้ยวเสืออาคมแก่ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย เขี้ยวเสือในสายวิชานี้โด่งดังไปทั่วทิศ เป็นหนึ่งไม่มีสองรองใครในแผ่นดิน  ตอบได้ว่าไม่มีใครเกินเขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน

  ขอกล่าวถึง หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกะบอก หรือที่ชาวบ้านมักเรียกจนติดปากว่า  หลวงพ่ออ่ำเรือเก่า  ตามประวัติทราบว่า หลวงพ่ออ่ำ ดั้นด้นไปหา ท่านขรัวแตง เพื่อขอเรียนวิชา  เจตนาแรกท่านต้องการเรียนทางเสกสร้างรูปเสือ  ท่านชอบทางอำนาจคงกระพัน  ตามวิสัยผู้ยังอ่อนอาวุโส  สนใจทางโลดโผน   ต่อเมื่อเดินทางถึงวัดอ่างศิลาเรียบร้อย เข้ากราบเรียนขรัวแตงถึงเจตนารมณ์ ว่าท่านต้องการเรียน ปลุกเสกเขี้ยวเสือลงอาคม  ขรัวแตงนั่งฟังแล้วย้อนถาม วัด/เดือน/ปีเกิด ของหลวงพ่ออ่ำ  แล้วหลับตาลงครู่หนึ่ง  ลืมตาขึ้นแล้วตอบว่า

  คุณมาถึงที่นี่มีเจตนาแรงกล้า  ต้องการมาศึกษาวิชาความรู้เป็นเรื่องดี แต่ฉันพิจารณาแล้ว  จริตแลวาสนา ของคุณไม่สมควรกับวิชา   แต่คุณมาถึงที่นี่นับว่ามีวาสนาต่อกัน การเดินทางมาจะไม่เสียเปล่า  เห็นว่าคุณควรได้วิชาสำคัญอีกวิชาหนึ่ง  ด้วยจริตคุณสมควรทางเมตตามหานิยม  ทางกระแสเย็น ไปไหนมีแต่ฅนรัก เขาไม่เกลียด มหาอำนาจดีฅนยำเกรง  แต่เมื่อเข้าหาใครเขาหนีหมด  ต้องอดเพราะเขาไม่ให้กิน  ผิดกับเมตตามหานิยม #เมตตาดี #ฅนเขารัก #เขาไม่กลัวไม่หนี  ขอเขากินก็ให้ ดีกว่ากันมากคิดตรึกตรองเอาดูเถิดว่า

**เขากลัว เขาพากันหนี เขารัก เขาพากันเขาหา  เมตตาย่อมดีกว่ามาก** สมภารแตงกล่าวชี้แนะ

  หลวงพ่ออ่ำ  เรียนวิชานี้จาก ขรัวแตง ทั้งที่เดิมจะไปเรียนปลุกเสก เสือ แต่กลับได้วิชาเสก แพะ มาแทนเป็นอย่างนี้  ศิษย์ขรัวแตงมีมากพอควร เช่น  หลวงพ่อเลือน วัดบางเหี้ย (สหาย หลวงพ่อปาน) – หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย    หลวงพ่อสุ่น ปากน้ำแหลมสิงห์ - ปู่เนียน สังข์เนตร อาศรมบางวัว สำหรับปู่เนียน เป็นศิษย์ปลายแถว  เรียนวิชายังไม่สำเร็จ ขรัวแตงมรณภาพเสียก่อน ภายหลังมาเรียนวิชาเพิ่มกับหลวงพ่อปาน  ปู่เนียนท่านนี้ภายหลังลาสิกขา  มาเป็นอาจารย์ฆราวาส มีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี ศิษย์ท่านมีชื่อเสียงมาก คือ หลวงพ่อวงศ์  วัดปริวาส ผู้สร้างเสือโลหะอันลือชื่อ เสือของหลวงพ่อวงศ์ท่านเสกตามตำราหลวงพ่อปาน  วัดบางเหี้ย  และเชิญหลวงพ่อปานเข้าทรงปลุกเสก  และเสกได้จนเสื้อโดดวิ่งดั่งมีชีวิตเลยทีเดียว 

คาถาบูชาแพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก

ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า "อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง อิมังคงกระพันธะนัง อธิฐามิ"

และสำหรับการสวมคอให้กล่าวคาถา "อา กา เส จะ ปี ปัง กะ โร" หรือที่เรียกว่า คาถากันฟ้าผ่า

พุทธคุณ แพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก

  เน้นเรื่องเมตตามหานิยม, ค้าขายเจริญรุ่งเรือง, มั่งคั่งสมบูรณ์, และแคล้วคลาดปลอดภัย. นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าจะช่วยในการปกครอง, มีเสน่ห์น่าดึงดูด, และรับเคราะห์แทนเจ้าของได้ โดยเชื่อกันว่าแพะนี้แกะจาก เขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตายซึ่งมีพลังอาถรรพ์และพลังศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์

  อีกประการเขาควายเผือก หรือเขาควายถูกฟ้าผ่าตาย  ถือว่าดีทางกันภูตผีปีศาจได้ฉมังนัก   ผลจากกระแสฟ้าฝ่าเปรียบได้รับพลังของฟ้า หรือพลังจากเทพเทวาจากเบื้องบน สามารถป้องกันไฟ ป้องกันฟ้าผ่า ได้อีกด้วย เชื่อว่าในเขาควายฟ้าผ่า  จะยังคงมีกระแสฟ้าสถิตอยู่แล้ว  เมื่อรับการปลุกเสกยิ่งดีเป็นเท่าทวี  พกติดตัวฟ้าไม่ผ่าตายแน่นอนตำราระบุเช่นนี้